ระบบเกียร์แบบ CVT  (Continuously Variable Transmission) เป็นระบบที่มีพื้นฐานมาจากระบบเกียร์แบบ variomatic ตั้งแต่ปี 1959 โดยมีหลักการทำงานง่ายๆคือ
 

แกนส่งกำลัง (input shaft - รับกำลังมาจากเครื่องยนต์) และแกนถ่ายทอดกำลัง (output shaft - ที่จะส่งผ่านกำลังไปยังเฟืองท้าย ก่อนจะถ่ายไปที่ล้อ) จะประกอบด้วยอุปกรณ์คล้ายลูกรอก (pulley) แกนละชุด โดยลูกรอกนี้ จะประกอบด้วย จานทรงกรวยตื้นๆ2จาน ซึ่งจะเข้าชิดกัน หรือแยกห่างจากกันได้ การเข้าชิดกัน หรือแยกห่างจากกัน ด้วยแรงดันของน้ำมันไฮโดรลิค ทำให้เส้นผ่านศูนย์กลางของลูกรอกเปลี่ยนไป มีผลทำให้อัตราทด ระหว่าง input : output เปลี่ยนแปลงไป อย่างต่อเนื่อง จึงเป็นที่มาของชื่อ CVT  ในจังหวะออกตัว input pulley จะมีเส้นผ่าศูนย์กลางน้อยที่สุด ในขณะที่ output pulley จะมีเส้นผ่าศูนย์กลางมากที่สุด ทำให้กำลังถูกส่งผ่านไปที่ล้อมาก ส่วนในจังหวะสุดท้าย หรือ "โอเวอร์ ไดรว์" ก็จะเป็นไปในทางกลับกัน  ระบบ CVT ระยะแรกๆ รวมถึงที่ใช้กันปัจจุบัน ในรถยนต์หลายรุ่น เช่น นิสสัน ใช้สายพานยาง ในการเชื่อมต่อ 2 แกนเข้าด้วยกัน ทำให้มีข้อจำกัด ในการรับแรงบิดขนาดสูงๆ ปัจจุบันจึงนิยมใช้เกียร์ CVT ในเครื่องยนต์ขนาดเล็ก แรงบิดต่ำ

ออดี้ ได้พัฒนาเกียร์ CVT ของตัวเองขึ้น เพื่อให้ใช้งานกับเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ แรงม้าและแรงบิดสูง และตั้งชื่อว่า เกียร์"มัลติโทรนิค"  โดยมีความเปลี่ยนแปลงจาก เกียร์ CVT ดั้งเดิม คือ
 

ใช้สายพานซึ่งเป็นโซ่เหล็ก ประกอบด้วยข้อต่อเล็กๆกว่าพันข้อ ต่อเข้าด้วยกัน เรียกว่า plate link chain มีระบบ ทอร์ค เซ็นเซอร์ ซึ่งจะคอยควบคุมกำลังของไฮโดรลิค ที่ส่งมายัง pulley ทางอุปกรณ์ที่เรียกว่า variator  ให้อยู่ในขนาดที่เหมาะสม ไม่มากเกินไปซึ่งจะทำให้เครื่องยนต์ ต้องสิ้นเปลืองกำลังมาต่อสู้กับความเสียดทานที่เกิดขึ้น แบบในระบบดั้งเดิมที่มักจะมีแรงดันมากเกินความจำเป็น ใช้ระบบ มัลติดิสค์ คลัทช์ ในการส่งผ่านกำลัง ซึ่งจะทำงานได้นุ่มนวลกว่า ระบบส่งผ่านกำลัง แบบ อิเลคโทร-ไฮโดรลิค หรือ ทอร์ค คอนเวอร์เตอร์ ที่ใช้อยู่ใน CVT เดิม มีระบบอิเลคโทรนิค ตรวจสอบตำแหน่งคันเร่ง เพื่อเลือกอัตราทดที่เหมาะสม มิฉะนั้น จะเกิดอาการคล้ายกับ "คลัทช์ลื่น" ขึ้นได้ ระบบอิเลคโทรนิค ยังโปรแกรมให้ สามารถเลือกตำแหน่งเกียร์ แบบแมนน่วล ในสไตล์ของทิปโทรนิค ได้ 6 ตำแหน่งเกียร์ และมีสวิทช์เปลี่ยนเกียร์ ให้เลือกติดตั้งที่พวงมาลัยได้ด้วย

plate link chain

จากการทดสอบ พบว่าระบบ มัลติโทรนิค ทำงานได้ดี ให้สมรรถนะที่ใกล้เคียง หรือเหนือกว่าทั้งเกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติ โดยมีราคาไม่สูงไปกว่าเกียร์อัตโนมัติมากเกินไป

ขณะนี้ การพัฒนารูปแบบเกียร์ CVT ยังไม่หยุด และคงจะมีอนุพันธุ์ของเกียร์ CVT รูปแบบใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ออกมาอีกเรื่อยๆในอนาคต