|
|
แคมรี่ใหม่ เตรียมลงแตะถนนในญี่ปุ่น ในเดือน กันยายน นี้ โดยมีแนวโน้มว่า จะแนะนำตัวในสหรัฐอเมริกา ตลาดสำคัญที่สุดของแคมรี่ก่อน ในกลางปีนี้
สัมผัสแรกที่รู้สึกได้สำหรับแคมรี่ใหม่คือ ดูสปอร์ตขึ้นกว่ารุ่นปัจจุบันมาก โดยเป็นแคมรี่รุ่นที่ 7 แล้วที่ออกสู่ตลาด นับจากรุ่นแรกเมื่อปี 1980 ซึ่งเน้นความเป็นรถครอบครัวมาตลอด ก่อนจะใส่แนวความเป็น สปอร์ต ซีดาน เข้ากับตัวใหม่นี้ให้ฉีกจากธรรมเนียมปฏิบัติเดิมๆ และนอกจากรุ่นพื้นฐานที่ดูเฉี่ยวแล้ว โตโยต้ายังมีเวอร์ชั่น สปอร์ต สำหรับแคมรี่ใหม่ด้วย ด้วยการเสริม กระจังหน้าแบบรังผึ้ง แทนแบบแถวขวาง, ไฟหน้าดวงกลมคู่ (อย่างที่เห็นในภาพนี้), แม็ก 16 นิ้ว, สปอยเลอร์หลัง และช่วงล่างจูนให้หนึบขึ้น ภายในก็จะดุดันด้วย ลายไม้สีดำ หรือสีไวน์แดง กับหนังแท้
เครื่องยนต์ที่ใช้ จะเป็นเครื่อง 2AZ-FE 2.4 ลิตร 4 สูบเรียง 118kw/221N.m และ IMZ-FE 3 ลิตร วี 6 กำลัง 162kw/304N.m โดยโตโยต้า จะเริ่มทดลองประกอบต้นแบบคันจริง ในอเมริกาในช่วงเดือน มีนาคม และ พฤษภาคม ก่อนจะเริ่มสตาร์ทไลน์การผลิต ที่โรงงานในเคนตั๊กกี้ USA ในเดือน กรกฏาคม ภายใต้โค้ดเนม 300N จากนั้น ในเดือนกันยายน จะเริ่มผลิตในญี่ปุ่น
สำหรับเมืองไทย ถ้าโตโยต้ายังยึดหลักการ ช้าแต่ชัวร์อย่างทุกวันนี้ คงต้องรอจนถึงปลายปีหน้า (2545) กว่าจะได้เห็นแคมรี่ใหม่
|
พรีมิร่า ใหม่ เปิดตัวในญี่ปุ่นไปแล้ว เมื่อ 29 ม.ค. ที่ผ่านมา
พรีมิร่าตัวนี้ เป็นเจนเนอเรชั่นที่ 3 นับตั้งแต่การแนะนำ P10 - พรีมิร่า รุ่นแรกเมื่อ 11 ปีก่อน ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่สำหรับพรีมิร่ารุ่นที่ 2 ซึ่งได้นำมาจำหน่ายในบ้านเราด้วยนั้น ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก เนื่องจากการออกแบบไม่โดดเด่นเท่าที่ควร รุ่นที่ 3 นี้ นิสสันเลยปล่อยฝีมือกันสุดตัว ได้พรีมิร่าใหม่ ที่ดูสวยเฉี่ยว ล้ำยุคเอามากๆ และก็เลยขยับเป้าหมายทางการตลาด ขึ้นไปชนกับรถระดับสูงกว่าด้วย โดยเฉพาะในยุโรป ตลาดสำคัญอีกตลาดหนึ่งของ นิสสัน พรีมิร่า
การออกแบบพรีมิร่าใหม่ ผสมผสานแนวโค้ง เข้ากับเส้นตัดตรงอย่างลงตัว และขนาดตัวถังก็เติบโตขึ้นอย่างมาก ยาวขึ้นกว่ารุ่นเดิม 135 มม. กว้างขึ้น 65 มม. และสูงขึ้น 80 มม. มาอยู่ที่มิติ 4565 x 1760 x 1480 มม. บนฐานล้อขนาด 2680 มม. ซึ่งเหยียดยาวขึ้นกว่าเดิม 80 มม. ช่วงล่างถูกปรับจูนให้เกาะถนนดีเยี่ยม เพื่อแข่งกับคู่แข่งหลักๆจากยุโรปด้วยกัน ซึ่งขึ้นชื่อลือชาในเรื่องความมันส์ในการขับขี่ โดยนิสสันวางตำแหน่งในยุโรป ให้ฟัดกับ ซี่รี่ส์ 3 และ เอ 4 โดยตรงทีเดียว
ถ้ามองว่าภายนอกดูล้ำสมัยแล้ว ภายในยิ่งฉีกออกไปอีก กับแนวคิดการนำแผงหน้าปัด มาไว้กลางรถ ซึ่งเริ่มนำมาใช้กันมากในรถเล็ก แต่งานนี้นิสสันขยับมาใช้กับรถใหญ่กันเลย และนอกจากแผงหน้าปัดแหวกแนวแล้ว นิสสันยังอัดเทคโนโลยีต่างๆ ไว้ในห้องโดยสารอีกมากมาย อาทิ จอภาพกลางคอนโซล ที่ออกแบบมาให้ทำงานสารพัด ทั้งแสดงแผนที่สำหรับระบบนำทาง แสดงสถานะการทำงานต่างๆทั้งรถ และยังแสดงภาพวิวท้ายรถ ซึ่งมองผ่านกล้อง CCD ขนาดเล็กทางด้านหลังอีกด้วย !!! นอกจากนั้นก็ยังมี ระบบช่วยการขับขี่ ซึ่งจะใช้สัญญาณเรดาร์ เลเซอร์ ซึ่งติดตั้งอยู่บริเวณกระจังหน้า คอยเตือนถ้าคุณเผลอง่วงเหงาหาวนอน แล้วไปจ่อท้ายสิบล้อมากเกินไป ! |
เครื่องยนต์ที่วางในพรีมิร่าใหม่มี
2.0 QR20DE และ 2.5 ลิตร QR25DE 4 สูบ
นอกจากรุ่นซีดานแล้ว ยังมีรุ่นสเตชั่นแวก้อนซึ่งเปิดตัวมาพร้อมกัน และสามารถเลือกระบบขับเคลื่อนได้ทั้ง 2 ล้อ และ 4 ล้อ นอกจากนั้นในยุโรป ก็จะมีรุ่นแฮทช์แบ็ค 5 ประตู เปิดตัวตามมาด้วย |
ผู้บริหารระดับสูง ของนิสสันบ้านเรา ให้สัมภาษณ์ว่า มีแผนจะเปิดตัวพรีมิร่าในบ้านเราในปีนี้ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ก็ถือเป็นความกล้าหาญชาญชัยมาก แต่โจทย์ที่สำคัญคือ นิสสันต้องหาตำแหน่งที่จะวางพรีมิร่าให้เหมาะ เพราะลำพังราคาในญี่ปุ่น ก็ล่อไป 8.5 แสน ถึง 1 ล้านบาทแล้ว ถ้ามาเมืองไทย น่าจะวิ่งไปอยู่แถว 1.3 - 1.4 ล้าน ซึ่งก็จะไปชนกับเซฟิโรใหม่ ที่กำลังจะเปิดตัวเช่นกัน
บางที นิสสันอาจจะอาศัยเทคโนโลยีต่างๆ ที่อัดมาเพียบในพรีมิร่าใหม่ แล้วใช้แนวทางเดียวกับที่เคยขายเซฟิโรรุ่นแรก ในราคา 1 ล้านบาท เมื่อหลายปีก่อน แยกพรีมิร่ามาขายเป็นรถกลุ่มใหม่ ให้ลูกค้าที่เน้นไฮเทคมาซื้อไป ไม่แน่นะครับ ก็เซฟิโรติดโซน่าร์คันละล้าน ยังขายกันระเบิดเถิดเทิงตอนเปิดตัวใหม่ๆมาแล้ว...