สปอร์ตคูเป้หรู 2 ที่นั่งคันนี้ จะมาแทนที่ซีรี่ส์ 8 ซึ่งไปได้ไม่ดีนัก ตั้งแต่เริ่มปรากฏตัว แทนที่ซีรี่ส์ 6 รุ่นเดิม โดยคูเป้ ที่ยังสวมโค้ดเนม อี 63 คันนี้ จะวางตำแหน่งทางการตลาด ระหว่าง ซีรี่ส์ 3 คูเป้ ที่จะออกวางตลาดปีหน้า กับ Z7 หรือ Z8 ที่จะออกสู่ตลาดระดับสูง ในปี 2000
ก่อนหน้านี้ เคยมีความพยายามผลักดัน ให้มีการสร้างซีรี่ส์ 5 คูเป้ขึ้น แต่โครงการดังกล่าว ไม่ประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม อี 63 คันนี้ กำลังเข้าสู่การพัฒนาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะใช้แพลทฟอร์มซึ่ง บีเอ็มดับบลิววางแผนไว้ สำหรับเบนท์ลีย์คันใหม่ ก่อนจะถูกโฟล์คเทคโอเวอร์ไป และจะมีชิ้นส่วนช่วงล่างอีกจำนวนหนึ่ง ที่ใช้ร่วมกับ ซีรี่ส์ 7 ใหม่ กับชิ้นส่วนอีกบางชิ้น ที่จะนำมาจากซีรี่ส์ 5 เพื่อเป็นการประหยัด แต่ก็จะมีเทคโนโลยีใหม่ๆ อัดแน่นมากับระบบช่วงล่างแน่นอน
เครื่องยนต์ที่คาดว่า จะบรรจุใต้ฝากระโปรง อี 63 จะเริ่มตั้งแต่ 6 สูบเรียง และ วี 8 3.5 ลิตร 235 แรงม้า กับ 4.4 ลิตร 286 แรงม้า อีกความเป็นไปได้หนึ่งคือ เวอร์ชั่น เอ็ม 6 ซึ่งจะใช้เครื่องยนต์ วี 8 - 5.0 ลิตร 400 แรงม้า ร่วมกับ เอ็ม 5 ที่กำลังจะออกสู่ตลาด โดยทั้งหมดจะจับคู่กับเกียร์ 6 สปีด ซีเควนเชี่ยล
คาดว่าเวอร์ชั่นคูเป้
จะวางตลาดก่อน ในราวปลายปี 2001 ตามมาด้วยรูปแบบเปิดประทุน ที่พุ่งเป้าไปยังอเมริกา
นิสสัน 300 แซดเอ็กซ์ เป็น Z คันสุดท้าย ที่จำหน่ายในอเมริกา หลังจากต้องถอดออกจากตลาด ในปี 1996 เนื่องจากปัญหาทางด้านเทคนิค ทำให้ไม่สามารถ ผ่านข้อบังคับสำหรับรถใหม่ได้
นิสสันเริ่มบุกเบิกตลาด สปอร์ตญี่ปุ่นในอเมริกา ด้วย 240 Z ตามมาด้วย 260 Z, 280 Z, 300 Z และปิดท้ายด้วย 300 ZX หลังจากเงียบหายไปพักหนึ่ง นิสสันจะปลุกผี Z คาร์ ขึ้นมาอีกครั้ง โดยเดินรอยตามความสำเร็จ ของโฟล์คเต่า นั่นคือ กลับไปหาต้นตระกูล Z...240 Z ตัวดังในอดีต ที่กลายเป็นคลาสสิค คาร์ ที่ต้องการของหลายๆคนในปัจจุบัน จากภาพร่างที่เห็นนี้ นิสสัน นำเค้าโครงของ 240 แซด มาใช้ในการออกแบบ นิสสัน แซด ที่จะออกใหม่
ผู้ควบคุมการออกแบบกล่าวว่า พยายามรักษารูปแบบของ 240 แซดไว้มากที่สุด โดยเฉพาะด้านหน้า ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของ 240 แซดทีเดียว ในขณะที่เพิ่มความโค้งมนเข้ามา สำหรับส่วนท้ายนั้น คาดว่าจะเป็นไฟท้ายที่โอบมาด้านข้าง แทนที่ไฟท้ายที่ตั้งตรงขึ้น อย่างในภาพสเก็ตช์นี้
อีกไม่นาน คงจะได้เห็น แซดคาร์ คันใหม่นี้ ในรูปของรถยนต์ต้นแบบ เพื่อทดสอบปฏิกิริยาของลูกค้า ซึ่งคาดว่าน่าจะผ่านไปสู่ ขั้นตอนการผลิตจริงได้ไม่ยากนัก
ดูภาพสปาย ช็อตรถคันล่างแล้ว ใครคุ้นๆบ้างครับ
รถ 2 คันข้างบนนี้ คือรถที่แซทเทิร์น ดิวิชั่นหนึ่งของ จีเอ็ม จะออกมาเสริมไลน์เดิม ซึ่งมีเพียงรถยนต์นั่ง ขนาดกลางค่อนข้างเล็กตระกูล S คือ SL, SW แวกอน และ SC คูเป้เท่านั้น โดยคราวนี้ จะเป็นรถยนต์นั่งขนาดกลาง ที่จะออกสู่ตลาดในปีหน้า
อาศัยความที่เป็นเจ้าของ โอเปิลอยู่ด้วย เลยจับเวคตร้ามาพัฒนาใหม่ กลายเป็นแซทเิร์นรุ่นใหม่นี่เอง แต่มีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดไปพอสมควร ที่สำคัญคือฝากระโปรงหน้า ที่ออกแบบใหม่ให้เป็นสไตล์ของ แซทเทิร์น โดยเฉพาะ
คาดว่าจะวางเครื่อง
2.2 ลิตรเป็นหลัก และมี 2.5 ลิตรวี 6 ของโอเปิล ให้เลือกใช้ ทั้งหมดหาซื้อได้แต่ในอเมริกาไปก่อน
หลายปีก่อน สมัยที่ฮอนด้า ครองความเป็นหนึ่งในฟอร์มูล่า วัน ฮอนด้าปล่อย NSX ออกสู่ตลาด แม้จะไม่สามารถเทียบเคียงกับ เฟอร์รารี่ ที่เป็นหนึ่งในซูเปอร์สปอร์ตของโลก แต่ฮอนด้าก็แสดงให้เห็นว่า ญี่ปุ่นก็สามารถผลิตซูเปอร์คาร์ได้ ไม่ใช่จ่ายกับข้าวอย่างเดียว และ NSX ยังมีผลอย่างมาก ในการสร้างอิมเมจให้กับฮอนด้า ในเรื่องของเทคโนโลยี ที่ไม่เป็นสองรองใคร
และในอีก 4 ปีข้างหน้า เมื่อฮอนด้าจะฉลองวาระครบ 50 ปี ร่วมกับการสานต่อความสำเร็จของ NSX ซูเปอร์คาร์คันใหม่ ที่เห็นในภาพร่างนี้ จึงเข้าสู่แผนการ ที่จะออกสู่ตลาดในอีก 2 ปีข้างหน้านี้ และจะเป็นอิมเมจคาร์คันใหม่ สำหรับศตวรรษที่ 21 ของฮอนด้า
จากภาพร่างที่ได้มานี้ เค้าร่างส่วนใหญ่ ยังเห็นว่าเป็นญาติกับ NSX อยู่ พร้อมทั้งเลย์เอาท์ เครื่องวางกลางลำตัว ส่วนท้ายลำตัวจะสั้นกว่ารุ่นปัจจุบัน ที่ยื่นยาวออกมาค่อนข้างมาก ในขณะที่คาดว่าฐานล้อ จะยาวขึ้นเพียงเล็กน้อย ทีเด็ดสำคัญคือเครื่องยนต์ ที่จาก 3.2 ลิตร วี 6 ในปัจจุบัน จะเติบโตขี้นเป็น 5.5 หรือ 6.0 ลิตร วี 12 ใหม่เอี่ยม โดยมีรายงานว่า จะปั๊มม้าออกมาได้ไม่น้อยกว่า 400 ตัว ซึ่งจะทำให้ สามารถสู้รบปรบมือกับ ซูเปอร์คาร์ 12 สูบของ บีเอ็ม เบนซ์ และโฟล์ค ได้อย่างไม่กลัวเกรงศักดิ์ศรี
ซูเปอร์ สปอร์ต จากบีเอ็ม
/ เบนซ์