ดีทรอยต์ มอเตอร์โชว์ 2000

รถยนต์นั่ง / อเมริกัน

รถยนต์นั่ง ซึ่งรวมทั้ง ซีดาน และสปอร์ต จากอเมริกัน รวมถึงญี่ปุ่นที่พะยี่ห้ออเมริกัน คือ เล็กซัส  และ อินฟินิตี้ แต่ละเจ้าก็มีตัวเด็ดๆมาเรียกน้ำลาย หลายๆรุ่น สำหรับค่ายจีเอ็ม นำคอนเซ็ปต์ ไฮบริดมาโชว์ แม้จะออกตัวช้ากว่าทางญี่ปุ่นพอควร แต่ก็แสดงให้เห็นว่า กระแสการใช้ เครื่องยนต์ระบบไฮบริด คงจะมาแรงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า...

อินฟินิตี้

อีกเจ้าที่ขนรถจากโตเกียว มอเตอร์โชว์ มาแสดงในงานนี้ คืออินฟินิตี้ ที่จับเอารถต้นแบบ นิสสัน XVL มาปะยี่ห้อใหม่ กลายเป็น อินฟินิตี้ XVL

  

XVL เป็นซีดานขับเคลื่อนล้อหลัง ขนาดกลาง ที่ออกแบบให้ดูหรูหรา มีค่า cd ต่ำเพียง 0.28 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร ไดเร็คท์ อินเจ็คชั่น วี 6 ผ่านเกียร์อัตโนมัติ แบบ CVT พร้อมด้วยระบบช่วงล่างมัลติลิงค์ใหม่ ทั้ง 4 ล้อ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูง ที่จะเข้าสู่สายพานการผลิตจริง โดยจะมีการประกาศถึงอนาคตของ XVL อีกครั้ง ในกลางปีนี้
 

ไครสเลอร์ 300 Hemi C

จากแรงบันดาลใจโดย ไครสเลอร์ 300 C ในช่วงปี 1957 ต้นแบบเปิดประทุนคันใหญ่ยักษ์คันนี้  สะท้อนให้เห็นถึงรูปแบบรถอเมริกัน ในยุคกลางศตวรรษที่แล้ว  โดยไครสเลอร์นำ 300 เอ็ม ซีดานคันหรู มาดัดแปลง โดยมีความยาวทั้งคัน 198 นิ้ว บนฐานล้อยาว 116 นิ้ว วางเครื่องยนต์ใหม่ 5.7 ลิตร ซึ่งผลิตม้าได้ 353 ตัว และแรงบิดขนาด 353 ปอนด์-ฟุต ใต้ฝากระโปรงที่ยาวเป็นพิเศษ 

และไม่ให้เสียทีที่รวมกิจการกับ เดมเลอร์ เบนซ์ แล้ว ไครสเลอร์คันนี้ จึงหยิบยืมเทคโนโลยีหลายอย่างมาใช้ ที่เห็นได้ชัดคือ โรลโอเวอร์ บาร์ ที่จะตั้งขึ้นมาโดยอัตโนมัติ เมื่อรถอยู่ในสภาวะที่เสี่ยงต่อการพลิกคว่ำ แบบเดียวกับที่ติดตั้งอยู่ใน เบนซ์ เอสแอล

 

แม้ว่าผู้บริหารของ เดมเลอร์ ไครสเลอร์ ยังไม่ยืนยันถึงความเป็นไปได้ ในการผลิตคอนเวอร์ติเบิ้ล คันยักษ์นี้ ออกสู่ตลาด แต่มีหลายคนยืนยันว่า น่าจะเห็น 300 Hemi C ในราคาที่สูงกว่า 300 เอ็ม ซีดาน 2-3 พันเหรียญ ในอีก 2 ปีข้างหน้า

TH!NK

แบรนด์เนมใหม่ จากตระกูลฟอร์ด ที่คงจะได้เห็นกันบ่อยขึ้นต่อไปนี้ เป็นแบรนด์เนมที่ฟอร์ดตั้งใจจะใช้ สำหรับรถที่ "เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม" โดยเฉพาะ  โดยในขณะนี้ ฟอร์ดร่วมมือกับ ไปรษณีย์ของสหรัฐอเมริกา ที่จะซัพพลายรถยนต์พลังไฟฟ้าให้ ซึ่งจะทำให้ TH!NK มีจำนวนรถไฟฟ้ามากที่สุด เทียบกับคู่แข่งยี่ห้ออื่น นอกจากนี้ แผนการตลาดของฟอร์ด คือ ให้ลูกค้าสามารถซื้อหาได้จากอินเตอร์เน็ต ที่ www.thinkmobility.com
 
 

TH!NK Neighbor รถไฟฟ้า 4 ที่นั่ง 
 
นอกเหนือจากรถยนต์แล้ว TH!NK ยังมีรถจักรยานอีก 2 แบบ ให้เลือกหาซื้อไว้ใช้ ได้ทั้งปั่นหรือใช้มอเตอร์ไฟฟ้า ในเวลาเมื่อยน่อง...และแม้จะตั้งแบรนด์ใหม่ขึ้นมา เพื่อสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะ แต่ฟอร์ดก็ยืนยันว่า รถยนต์คันอื่นๆของฟอร์ด ทั้งรถยนต์นั่ง ปิคอัพ หรือมินิแวน ก็จัดเป็น LEV แล้วทั้งสิ้น

ดอดจ์ ไวเปอร์

แม้จะมีอายุอานามล่วงเลยมาถึง 11 ปี ตั้งแต่เปิดตัวใน ดีทรอยต์ มอเตอร์โชว์ นี่เช่นกัน แต่ก็ยังไม่มีการพูดถึง ไวเปอร์ คันใหม่  ในขณะที่ทางดอดจ์ จัดการนำไวเปอร์ มาแต่งองค์ทรงเครื่อง กลายเป็น ไวเปอร์ GTS-R สตรีทคาร์คันแรง ด้วยเครื่องยนต์ วี 10 - 8 ลิตร 500 แรงม้า กับแรงบิด 500 ปอนด์-ฟุต
 
สปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่ ได้อิทธิพลมาจากตัวแข่ง GT-2 ภายในติดตั้งที่นั่งแบบรถแข่ง พร้อมเข็มขัด 5 จุด แดชบอร์ดเสริมการตกแต่งด้วย คาร์บอนไฟเบอร์ และช่องระบายอากาศติดตั้งที่ด้านหน้าหลังคา และสำหรับผู้ที่มองหา ไวเปอร์ ตัวใหม่ มีคนคาดการณ์ไว้ว่าน่าจะมาโชว์ในงานนี้ ในอีก 2 ปีข้างหน้า

บูอิค
 
อีกแบรนด์หนึ่งจากจีเอ็ม นำต้นแบบซีดาน LaCrosse ออกโชว์ โดยเป็นการแสดงถึงแนวทางในอนาคต ของรถบูอิค และผู้บริหารของจีเอ็มเองก็บอกว่า ไม่มีแนวคิดที่จะผลักดันรถคันนี้ สู่โปรดัคชั่นคาร์แต่อย่างใด 

ลาครอสส์ เป็นซีดานขนาดใหญ่ ทรงแฮทช์แบ็ค วางเครื่องยนต์ วี 8 - 4.2 ลิตร 265 แรงม้า ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ภายในเน้นความหรูหราในการตกแต่ง ด้านหลังสามารถแปลงสภาพเป็นกึ่งปิคอัพได้ โดยการสั่งด้วยเสียง และฝากระโปรงหลังจะเลื่อนเข้ามา นอกจากนี้ยังแหวกแนวด้วยฝากระโปรงหน้า ที่ติดบานพับไว้ด้านข้าง แทนที่แนวกระจกหน้า แบบรถทั่วๆไป

จีเอ็ม เพอร์เซ็ปต์
 
จีเอ็ม ปล่อยต้นแบบรถไฮบริด ตามสมัยนิยมออกมา ภายใต้ชื่อ Percept โดยซีดานในฝันคันนี้ ใช้เครื่องยนต์ผสมผสาน ระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้า ขับเคลื่อนล้อหน้า และเครื่องยนต์ดีเซล แบบไดเร็คอินเจ็คชั่น ขับเคลื่อนที่ล้อหลัง 

บนเวที จีเอ็ม โชว์ เพอร์เซ็ปต์ 2 รุ่น 2 แบบ คันแรก เป็นรุ่นที่ใช้ มอเตอร์ไฟฟ้า แบบ 3 เฟส ขนาด 35 กิโลวัตต์ และเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งคันนี้สามารถทำอัตราการบริโภคได้ที่ 80 ไมล์ต่อแกลลอน ส่วนอีกคันล้ำยุคไปอีก ด้วยการใช้มอเตอร์ไฟฟ้า ขนาด 85 กิโลวัตต์ ที่ล้อหน้า ร่วมกับ มอเตอร์ไฟฟ้าเช่นกัน แต่ได้กำลังจากเซลล์เชื้อเพลิงแบบ ไฮโดรเจน-อากาศ ผลิตกำลังได้ 100 กิโลวัตต์ ที่ล้อหลัง

คันแรก อาจจะพอเห็นแสงสว่างในตลาดรำไรๆ  แต่คันหลัง คงยังอีกห่างไกลนัก...

เล็กซัส
 
หลังจากประสบความสำเร็จอย่างสูง จากการแนะนำเล็กซัสคันแรกในงานนี้ เมื่อ 11 ปีก่อน เล็กซัสมาอีกครั้ง กับรูปแบบที่สื่อมวลชนอเมริกันแซวว่า "เป็นการก็อปปี้ ที่ทำได้ดีกว่าต้นแบบ"  - เล็กซัส LS 430 

รูปร่างภายนอก ยังดูละม้าย เบนซ์ เอส-คลาส เช่นเดิม แต่เหลือเชื่อ ด้วยค่า cd เพียง 0.25 ต่ำที่สุดในรถซีดานที่มีขายทั้งหมด ในตลาดโลก ซึ่งนั่นจะมีผลให้ เล็กซัส สามารถคงความเงียบเชียบในห้องโดยสาร ที่เป็นจุดเด่นในเล็กซัสเกือบทุกรุ่นไว้ได้  เมื่อร่วมกับเครื่องยนต์ 4.3 ลิตร วี 8  ใหม่  แอสเอส 430 จะแหวกอากาศ จาก 0-60 ไมล์/ชม ได้ใน 6.2 วินาทีเท่านั้น 

 
 
ของเล่นต่างๆที่มีมาเสริมความหรู อาทิ  ระบบช่วงล่างแบบถุงลม (air suspension)  ที่นั่งปรับได้สารพัดทิศทาง  ประตูทุกบานใช้มอเตอร์ไฟฟ้าผ่อนแรง...และสุดท้ายคือ ราคา ที่เล็กซัสบอกว่า คุ้มค่ากว่า....เอส คลาส ??? 
 

  
 

นอกจากการโชว์ตัว แอสเอส 430 เล็กซัส ก็นำต้นแบบ เอสซี คูเป้ จากโตเกียว มาโชว์ในงานนี้อีกครั้ง เพื่อเตรียมลงตลาดในชื่อ เอสซี 300/400 รวมทั้ง ยังแนะนำ ไอเอส 300 สู่ตลาดอเมริกาในงานนี้ด้วย
 

 

More for Detroit 2000
รถ SUV อเมริกัน
รถจากค่ายเอเชีย
รถจากค่ายยุโรป