ดีทรอยต์ มอเตอร์โชว์ 2000

รถจากค่าย ยุโรป

กลุ่มผู้ผลิตจากยุโรป ให้ความสำคัญกับงานนี้ โดยมีรถใหม่มาเปิดตัวหลายรุ่น ไม่นับรวม เมอร์เซเดส เบนซ์ ที่ปัจจุบัน เป็นส่วนหนึ่งของ เดมเลอร์-ไครส์เลอร์ ที่น่าสนใจมากคือ โฟล์คสวาเกน ที่อ่านขาดตลาดอเมริกัน โดยการนำต้นแบบ ปิคอัพ AAC ออกมาเรียกน้ำลาย อเมริกันชนในงานนี้  แต่รถส่วนใหญ่ ก็ยังเป็นรถยนต์นั่ง ตามแนวทางตลาดในยุโรปเป็นหลัก

เมอร์เซเดส เบนซ์

เป็นผู้ผลิต ที่เน้นกับต้นแบบโร้ดสเตอร์มาก ในช่วงระยะหลังนี้ หลังจากได้รับการตอบสนองอย่างดี กับ วิชั่น SLR เมื่อปีที่แล้ว จนได้รับการผลักดันเข้าสู่การผลิตจริง  ปีนี้ เบนซ์ มาเขย่าเวทีดีทรอยต์อีกครั้ง กับน้องเล็ก วิชั่น SLA ที่พัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของ เมอร์เซเดส เอ-คลาส ซึ่งนั่นหมายถึงว่า SLA พร้อมที่จะถูกพัฒนาเข้าสู่ไลน์การผลิต อย่างไม่ยากเย็นนัก เนื่องจากมีแพลทฟอร์ม รออยู่แล้ว

 

SLA มาในสไตล์ retro look อย่างเต็มที่ ด้านหน้ายังเน้นสไตล์ แอโร่ เชพ ตามแบบพี่ใหญ่ SLR ซึ่งดูละม้ายคล้ายกับ อัลฟ่า คูเป้  ฝากระโปรงหน้ามาแปลก แบบพรุน มองเห็นเครื่องเคราภายใน แถมโชว์จุดยึดช็อคอัพให้เห็นกันชัดๆ  ภายในเน้นวัสดุธรรมชาติ ร่วมกับการใช้อลูมิเนียมในการตกแต่ง ด้านนอกทำเก๋ ด้วยการติดแร็คไว้ที่ บริเวณฝากระโปรงท้าย เพื่อบรรทุกสัมภาระ เนื่องจากเนื้อที่ภายในฝากระโปรงท้ายส่วนใหญ่  หมดไปกับการเก็บหลังคาที่พับลงไป

เครื่องยนต์ที่วางในคันต้นแบบนี้ เป็นเครื่อง  1.9 ลิตร 125 แรงม้า ที่วางอยู่ใน A 190 ...และถ้าเสียงตอบสนองดังกระหึ่มพอ เราคงได้เห็น SLA เดินตามก้น SLR เข้าสู่ไลน์การผลิตอีกรุ่นหนึ่ง...

วอลโว่

หลังจากปล่อยข่าวกระเส็นกระสายออกมานาน วอลโว่ก็ปล่อยแวนรุ่นใหม่ออกสู่ตลาด โดยคราวนี้ มาทีเดียว 2 รุ่น 2 แบบ คือ วี 70 ขับเคลื่อนล้อหน้า และ วี 70 XC ขับเคลื่อน 4 ล้อ สไตล์ ออฟโร้ด ทั้ง 2 คัน เป็นรถที่พัฒนาขึ้นใหม่ ตามคำแถลงของวอลโว่ โดยไม่มีความเกี่ยวข้องกับ เอส 80 ที่ออกมาก่อนหน้านี้ แม้จะใช้แพลทฟอร์มที่ดัดแปลงมาจาก แพลทฟอร์มของ เอส 80 ก็ตาม 
ตามนโยบายใหม่ของวอลโว่ แต่ละรุ่นจะมีรูปแบบแยกจากกัน  นั่นคือ เอส 80 เป็น ซีดาน  มาที่ วี 70 เป็นแวก้อน  และที่คาดว่าจะตามมา คือ ซีดานใหม่แทนที่ เอส 70 รุ่นปัจจุบัน โดยจะสวมรหัส เอส 60 แทน ซึ่งกระแสข่าวระบุว่า จะใช้แพลทฟอร์มดัดแปลงจาก เอส 80 เช่นกัน

 

เครื่องยนต์ที่วางใน วี 70 ใหม่ จะเริ่มจาก เครื่อง ไลท์เทอร์โบ 5 สูบ ที่พัฒนาจากรุ่นปัจจุบัน ให้เพิ่มแรงม้า เป็น 200 แรงม้า จาก 193 แรงม้า กับรุ่น ไฮ-เพรสเชอร์ เทอร์โบ ที่ผลิตม้าได้ 242 ตัว และการันตี 0-60 ไมล์/ชม ใน 6.7 วินาที  โดยจะมีทั้งแบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด แบบเลือกเล่นเกียร์ได้ เช่นเดียวกับคู่แข่ง โดยวอลโว่เรียกระบบเกียร์แบบนี้ของตัวเองว่า "เกียร์โทรนิค" 

  

วี 70 จะเริ่มวางตลาดในเดือน เมษายน และ วี 70 XC จะตามมาในเดือน สิงหาคม
 

ปอร์เช่
 
 
 
ปอร์เช่ นำ 911 เทอร์โบ มาเปิดตัวอีกครั้งในอเมริกา หลังจากออกโชว์โฉม ที่แฟรงค์เฟิร์ตมาก่อนหน้านี้แล้ว เพื่อเตรียมปลดปล่อยความแรง ขนาด 415 แรงม้า จากทวินเทอร์โบ ลงสู่ท้องถนนในอเมริกา โดยปอร์เช่เคลมว่า ด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออันทันสมัย  ระบบ Porsche Stability Management System และล้อขนาด 18 นิ้ว จะทำให้ 911 เทอร์โบคันนี้ เป็นปอร์เช่ที่มีแฮนด์ลิ่งดีที่สุด เท่าที่ปอร์เช่เคยผลิตรถมาทีเดียว !!! 
นอกจาก 911 แล้ว ปอร์เช่ก็จับ บ็อกซเตอร์ เอส มาเปิดตัวที่นี่อีกเช่นกัน ซึ่งจะแรงด้วย เครื่องยนต์ 6 สูบ 3.2 ลิตร 250 แรงม้า กับเกียร์แมนน่วล 6 สปีด และดิสค์เบรคจาก คาร์เรร่า

นอกจากนำรถทั้ง 2 รุ่นมาโชว์ตัว ปอร์เช่ยังย้ำถึงความสำเร็จของยอดการขาย ทั้ง 911 และ บ็อกซเตอร์ ที่ทำยอดในปี 1999 ได้สูงเป็นประวัติการณ์ทั้งคู่ ปิดท้ายด้วยการแย้มถึง SUV คันใหม่ ที่เตรียมจะโชว์โฉมในปีหน้า...

ออดี้

ออดี้ จับ เอ 8 รุ่นฐานล้อยาว และ ทีที โร้ดสเตอร์ มาเปิดตัวในอเมริกา โดยไม่มีต้นแบบใหม่ๆมานำเสนอแต่อย่างใด สำหรับ ออดี้ A8 L เป็นขุนศึกที่ออดี้ เตรียมมาสู้กับคู่แข่งโดยเฉพาะ เนื่องจากในตลาดรถหรูระดับนี้ของอเมริกา กว่า 80 เปอร์เซ็นต์ที่ขาย เป็นรุ่นฐานล้อยาวทั้งสิ้น โดยจะมีความยาวมากกว่ารุ่นปกติ 5 นิ้ว

  
 

สำหรับ ทีที โร้ดสเตอร์ ที่เปิดตัวในยุโรปไปแล้ว ก็นำมาโชว์ในงานนี้ เพื่อเตรียมลงตลาด เขย่ายอดขาย เบนซ์ กับ บีเอ็ม เช่นกัน โดยออดี้ตั้งเป้าจะขาย ทีที ถึง 10,000 คันในปีนี้ เฉพาะในอเมริกา ซึ่งจะช่วยเสริมยอดขายรวมของออดี้ ที่เพิ่มขึ้นติดต่อกันในช่วงหลายปีมานี้ จากความสำเร็จในการสร้างอิมเมจของออดี้ ในตลาดอเมริกานั่นเอง 
โอเปิ้ล

โอเปิ้ลมาแปลก เพราะลูกสมุนของจีเอ็มยี่ห้อนี้ ไม่วางขายในอเมริกา แต่ก็เอารถต้นแบบ ซาฟิร่า มาโชว์กับเค้าด้วย

ซาฟิร่า สโนว์เทรคเกอร์ เป็นรถที่ดัดแปลงจากซาฟิร่า ที่กำลังจะลุยตลาดบ้านเราในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ออกแบบมาสำหรับเอาใจนักเล่นสกีทั้งหลาย ดังนั้นคอรถบ้านเราไม่เกี่ยวแน่นอน

  
ซ้าบ

ซาบนำ 9-5 แอโร่ แวก้อน ที่โชว์มาจากแฟรงค์เฟิร์ต มาเปิดตัวในอเมริกา เพื่อเตรียมลงตลาดในเดือน เมษายนนี้ เร็วกว่ากำหนดจริงที่วางไว้ ในปี 2001

โฟล์คสวาเกน
 
โฟล์คสวาเกน ทำตัวกลมกลืนกับตลาดสหรัฐฯ ที่คลั่งไคล้รถปิคอัพกันทั่วทุกหัวระแหง ด้วยการส่งต้นแบบ AAC (Advanced Activity Concept) ลงโชว์ในดีทรอยต์ปีนี้  สื่อมวลชนบางคนกระแนะกระแหนบอสส์ใหญ่ของโฟล์ค ด้วยการเรียกปิคอัพคันนี้ว่า "Piech up" 

การนำเสนอต้นแบบ AAC นี้ เป็นการทดสอบปฏิกิริยา ของอเมริกันชน ที่จะมีต่อปิคอัพขนาดฟูลไซส์คันนี้ แน่นอนว่ายังไม่มีการพูดถึง ความเป็นไปได้  ในการผลิตในระดับแมสโปรดัคท์

AAC คันนี้ ดูเหมือนปิคอัพ 2 ประตู แต่ที่จริงเป็นรถ 4 ประตูที่ไม่มีเสากลาง โดยประตูหลังมีบานพับอยู่ด้านหลัง ทำให้เปิดเข้าสู่ห้องโดยสารได้กว้างขวาง ภายในตกแต่งด้วยเอกลักษณ์เดียวกับ โฟล์ครุ่นใหม่ทั้งหลาย เน้นอลูมิเนียมที่กลุ่มออดี้ โฟล์ค เป็นผู้บุกเบิกในการใช้ตกแต่งภายใน  และปุ่มต่างๆดูดุดันสมกับคาแรคเตอร์ของรถ

ตัวรถยาว 207.2 นิ้ว อยู่บนฐานล้อยาว 130.5 นิ้ว โดยเหยียดล้อหลังออกไปไกล กว่าปิคอัพโดยทั่วๆไป  เครื่องยนต์ที่ใช้ เป็นเครื่องทวินเทอร์โบ ดีเซล วี 10 - 313 แรงม้า เรียกแรงบิดสูงสุดได้ที่ 600 ปอนด์-ฟุต แค่เพียง 2000 รตน.

  

ความสำคัญของ AAC คันนี้ ที่สื่อมวลชนคาดการณ์กันคือ หลายสิ่งหลายอย่างในต้นแบบคันนี้ จะสะท้อนให้เห็นถึง รูปลักษณ์ของ SUV คันใหม่ของโฟล์ค ซึ่งพัฒนาร่วมกับ ปอร์เช่ ที่จะออกสู่ตลาดในอีกปีเศษข้างหน้านี้ และในงานนี้นอกจากการปรากฎตัวของ โปรโตไทป์ปิคอัพคันแรกแล้ว โฟล์คยังประกาศยืนยันการผลิต บีเทิ่ล เปิดประทุน ซึ่งจะเริ่มการผลิตในโรงงานที่เมกซิโก ในปี 2002

โรสส์รอยซ์

นี่อาจจะเป็นโรสส์รอยซ์คันใหม่คันสุดท้าย  ก่อนที่ โรลส์รอยซ์ จะแยกตัวออกจาก เบนท์ลีย์ และไปอยู่ในอาณัติของ บีเอ็มดับเบิลยู ในอีก 3 ปีข้างหน้า  แต่ถึงอย่างนั้น ทีมงานชุดปัจจุบัน ก็ทุ่มเทให้กับ โรลส์รอยซ์คันนี้ เช่นเดียวกับ ฟลายอิ้ง เลดี้ คันอื่นๆ 
 
Corniche เป็นรถหรูเปิดประทุนคันล่า ที่หาซื้อได้ตามสั่งเท่านั้น โดยทุกคันจะผลิตแบบแฮนด์เมด ตามออร์เดอร์ จากโรงงานที่ Crewe ในประเทศอังกฤษ เพื่อคงความหรูทุกกระเบียดนิ้ว โดยเฉพาะการตกแต่งภายใน ด้วยการเย็บหนังคอนนอลลี่ด้วยมือ ไปจนถึงพรมขนสัตว์บนพื้นรถ

คอร์นิช จะวางเครื่องยนต์ วี 8 ไลท์ เทอร์โบ 6.75 ลิตร 325 แรงม้า ซึ่งจะพายักษ์ขนาด 2 ตันคันนี้ ไปถึง 60 ไมล์/ชม ได้ใน 8 วินาที

  

จากัวร์
 
จากัวร์ เตรียมสานต่อความสำเร็จในอดีต ของยอดรถสปอร์ต D-type และ E-type อีกครั้ง โดยการแนะนำ ต้นแบบ F-type คันสวยคันนี้  โดยจากัวร์บอกว่า จากัวร์เตรียมจะสานต่อตลาดรถสปอร์ตที่แท้จริง ที่เคยประสบความสำเร็จอย่างมาก ในช่วงปี 1950 และ 1960 ด้วยสปอร์ตขนาดเล็กคันนี้ 

สไตลิ่งหลายอย่าง ใกล้เคียงกับ คอนเซ็ปต์ คาร์ XK180 ที่เคยโชว์ตัวใน ปารีส มอเตอร์โชว์ เมื่อปี 1998 แต่มีขนาดเล็กกว่ามาก โดย เอฟ-ไทป์ สั้นกว่าถึง 25 นิ้ว และแคบกว่า 4 นิ้ว ที่สำคัญคือ จากัวร์ยืนยันว่า XK180 จะไม่มีการผลิตจริง แต่สำหรับ เอฟ-ไทป์ นั้น " เรากำลังรอฟัง ปฏิกิริยาตอบสนอง จากแฟนๆจากัวร์อยู่" 

ยังไม่มีการระบุถึงเครื่องยนต์ หรือแพลทฟอร์ม ที่จะวางตัวถัง เอฟ-ไทป์ ไว้ แต่นักคาดการณ์ทั้งหลายเก็งกันว่า น่าจะวางเครื่อง วี 6 -240 แรงม้า ที่เห็นอยู่ใน เอส-ไทป์ หรือ อาจจะไปถึง เครื่อง วี 6 ซูเปอร์ชาร์จ 300 แรงม้า ได้เลย...จะจริงเท็จแค่ไหน คงอีกไม่เกิน 2-3 ปีข้างหน้า น่าจะได้เห็น...

  

บีเอ็มดับบลิว

ไม่มีทีเด็ดอะไร นอกจากนำ ซีรี่ส์ 3 คูเป้ กับ แซด 9 มาเปิดตัวในตลาดอเมริกา และพร้อมกันนี้ ก็มีการแถลงข่าวยืนยัน การกลับมาของ มินิ อีกครั้ง สำหรับตลาดอเมริกา

More for Detroit 2000
รถ SUV อเมริกัน
รถจากค่ายยุโรป
รถจากค่ายเอเชีย