ความเคลื่อนไหวในแวดวงรถยนต์
 28/06/01
บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 7 ใหม่


หะแรกที่เห็น บีเอ็มดับเบิลยู  ซีรี่ส์ 7 ใหม่ ความรู้สึกที่เกิดขึ้น...อึ้ง

และได้ยินมาว่า บิมเมอร์หลายๆราย ก็บ่นกระปอดกระแปดกันออกมาเหมือนกัน ...  เรียกได้ว่าครั้งนี้ บีเอ็มจัดการออกแบบรถรุ่นใหม่ ให้แหวกอย่างเหนือความคาดหมาย และถ้าคุณคิดว่าหน้าตาภายนอก ยังสร้างความเซอร์ไพร้ส์ไม่พอ ต้องเข้ามาดูภายในรถ ที่บีเอ็มก็ปล่อยข่าวมาเป็นระยะๆแล้วว่า งานนี้ iDRIVE มาแน่...

  
ซีรี่ส์ 7 รุ่นปัจจุบัน มีการเปลี่ยนแปลงน้อยมาก เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้ แต่มารุ่นใหม่ล่าสุด ที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในแฟรงค์เฟิร์ต กันยายนนี้ บีเอ็มจัดการพลิกโฉม จนไม่เหลือเค้าเดิม พร้อมอัดเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาเต็มปรี่ เพื่อชนกับ เอส คลาส, รวมไปถึง  เอ 8 ใหม่ รวมถึง โฟล์ค ดี 1 ใหม่ และเอ็กซ์เจใหม่ จากจากัวร์ ซึ่งทั้ง 3 คันนี้ จะทยอยกันออกมาในอนาคตอันใกล้นี้

สไตลิ่งของ ซีรี่ส์ 7 ใหม่ แทบจะเคาะออกมาจาก แซด 9 ต้นแบบคันดัง เรียกได้ว่า ซีรี่ส์ 7 ใหม่ คือ แซด 9 ซีดานนั่นเอง ไฟหน้าทรงใหม่ แปลกตา  ฝากระโปรงท้าย แบบ clamshell   ช่วงโป่งคลุมล้อถูกดึงให้ผายกว้างออก  ทั้งหมดช่วยให้   ซีรี่ส์ 7 ใหม่ ดูสปอร์ตกว่ารุ่นปัจจุบัน ซึ่งเป็นเทรดดิชั่นที่สำคัญ ของบีเอ็ม นั่นคือ การสร้างสปอร์ตซีดาน  ที่เอาใจผู้ขับขี่ที่รักการขับรถนั่นเอง

ภายในก็แทบจะแกะแบบมาจาก แซด 9 เช่นกัน ด้วยเทคโนโลยีการควบคุมใหม่เอี่ยม iDrive ที่อาจต้องใช้เวลาพิสูจน์สักเล็กน้อย ว่าได้ผลอย่างที่บีเอ็มคุยไว้หรือไม่  บีเอ็มบอกว่า ภายในของซีรี่ส์ 7 ใหม่ ถูกออกแบบให้แบ่งเป็น 2 โซน คือ comfort area และ driving area ดูจากภาพภายใน จะเห็นว่าไม่มีคันเกียร์อยู่ที่คอนโซลกลาง แต่เกียร์จะเปลี่ยนได้โดย คันบังคับที่อยู่ตรงคอพวงมาลับ รวมทั้งปุ่มที่อยู่บนพวงมาลัย,  การสตาร์ทรถก็ไม่ต้องใช้กุญแจ แต่อาศัยการกดปุ่มเช่นกัน  การบังคับควบคุมส่วนใหญ่ ก็จะอยู่ที่ปุ่มบริเวณพวงมาลัย ซึ่งบีเอ็มก็ถือว่าเป็นเจ้าแรกๆ ที่นำปุ่มควบคุมต่างๆ มาติดตั้งที่พวงมาลัย ตั้งแต่ ซีรี่ส์ 5 และซีรี่ส์ 7 รุ่นปัจจุบัน

ทีเด็ดสำคัญคือ ปุ่มควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ภายใน iDrive ที่อาศัยปุ่มเพียงปุ่มเดียว ควบคุมอุปกรณ์สารพัดชนิดในรถยนต์ อาทิ ระบบปรับอากาศ  ระบบนำทาง  เครื่องเสียง  ระบบติดต่อสื่อสารต่างๆซึ่งรวมไปถึงอินเตอร์เน็ต โดยปุ่มนี้จะอยู่ที่คอนโซลกลาง บริเวณที่ควรจะเป็นคันเกียร์ อาศัยการหมุน และการกด ฟังก์ชั่นต่างๆ ก็จะแสดงผลที่หน้าจอขนาดใหญ่ ซึ่งติดตั้งอยู่สูง กลางคอนโซล เพื่อให้สามารถมองเห็นได้ง่าย โดยไม่ต้องละสายตาจากท้องถนนเบื้องหน้า

นอกจากนั้น ระบบไฟฟ้าที่ใช้ในซีรี่ส์ 7 ใหม่ ก็จะใช้ระบบไฟฟ้า 42 โวลท์ สมบูรณ์แบบ เป็นครั้งแรกสำหรับรถที่เข้าสู่สายพานการผลิต

นอกจากดีไซน์ทั้งในและนอกแล้ว เครื่องยนต์ก็ต้องใหม่ด้วย ให้สมกับที่จะมาล้มช้างอย่าง เอส คลาส  ด้วยเครื่อง วี 8 ใหม่เอี่ยม 2 บล็อค  3.6 ลิตร 272 แรงม้า ใน 735 ไอ และ 4.5 ลิตร 333 แรงม้า ใน 745 ไอ  ทั้ง 2 เครื่อง ติดตั้งระบบขับเคลื่อนวาล์วแบบใหม่ valvetronic ที่ได้แนะนำตัวไปแล้ว ในซีรี่ส์ 3 คอมแพ็คใหม่  เครื่องยนต์บล็อคใหม่นี้ บีเอ็มเคลมว่าประหยัดน้ำมันกว่า วี 8 บล็อคเดิม ถึง 14 เปอร์เซ็นต์ และเดินได้ทั้งเรียบทั้งเงียบ และนุ่มนวลกว่าเครื่องเดิม

ระบบเกียร์ที่ใช้ เป็น เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ซึ่งทำงานได้ทั้งแบบ  fully automatic และ  sequential style shifts ทำให้สมรรถนะออกมา สมกับสปอร์ตซีดานรุ่นใหญ่ คือ 0-100 ใน 7.5 วินาที ใน 735 ไอ  และ 6.3  วินาที  ใน 745 ไอ ระบบช่วงล่างเป็น  pneumatic suspension และ electronically controlled dampers ซึ่งบีเอ็มก็คุยว่า ให้ความหนึบและความนุ่มได้ดีที่สุด เท่าที่จะหาได้ในรถระดับนี้...

อีกไม่นานก็คงได้รู้กันว่า การปฏิวัติของบีเอ็มครั้งนี้  ออกหัวหรือออกก้อยกันแน่...

วอลโว่ อ๊อฟโร้ด

วอลโว่ เตรียมส่ง อ็อฟโร้ดตัวแรก ลงสู่ตลาด หลังการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในดีทรอยต์ มอเตอร์โชว์ ต้นปีหน้า

อ้อฟโร้ดวอลโว่ ภายใต้โค้ดเนม P28 คันนี้ ฟอร์ดต้องระมัดระวังอย่างมาก ที่จะวางตลาดให้แบ่งแยกออกจาก อ้อฟโร้ดในมือฟอร์ดด้วยกัน อย่างเรนจ์  โรเวอร์ และ แลนด์ โรเวอร์ ซึ่งเป้าหมายที่วอลโว่วางไว้ คือการแชร์ตลาด กับ เอ็ม คลาส และเอ็กซ์ 5 เป็นหลัก

โครงสร้างส่วนใหญ่ จะอาศัยเค้าโครงของ ต้นแบบ ACC ที่วอลโว่นำออกโชว์ไปเมื่อต้นปีนี้ โดยตัวรถจะวางอยู่บนแพลตฟอร์ม P2 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเดียวกับ วอลโว่ เอส 60, วี 70 รวมไปถึง เอส 80 ด้วย  เมื่อเป็นแบบนี้ แน่นอนว่าระบบขับเคลื่อน ก็หยิบยกมากจาก วอลโว่ วี 70 XC นั่นเอง ซึ่งก็จะใช้ระบบคลัทช์ อิเลคโทรนิคส์ ของ Haldex ร่วมกับ วี 70 XC เช่นกัน

และจะเป็นครั้งแรกสำหรับวอลโว่ ที่จะวางเครื่อง วี 8 ซึ่งก็หยิบยืมมาจาก จากัวร์ ที่ขณะนี้อยู่ภายใต้ร่มเงาของ ฟอร์ด มอเตอร์ส ด้วยกัน โดยตัวท้อป วี 8 - 4.0 ลิตร คาดว่าจะมีกำลังราว 280 แรงม้า สำหรับภายในก็หยิบยืมระบบ touch-screen navigation technology มาจากจากัวร์เช่นกัน เรียกว่างานนี้ ฟอร์ด จัดการผสมปนเป เทคโนโลยี จากรถยี่ห้อต่างๆในมือตัวเอง เพื่อลดต้นทุนอย่างเต็มที่  และนั่นหมายถึงว่า วอลโว่จะสามารถตั้งราคา อ้อฟโร้ดคันนี้ได้อย่างน่ากลัว อย่างที่จากัวร์ ทำกับ เอ็กซ์ ไทป์ ใหม่มาแล้ว

จะถูกจะแพงแค่ไหน ต้นปีหน้าได้รู้กันแน่ครับ