ความเคลื่อนไหวในแวดวงรถยนต์
6/02/01

โตโยต้า แคมรี่ ใหม่

แคมรี่ใหม่ เตรียมลงแตะถนนในญี่ปุ่น ในเดือน กันยายน นี้ โดยมีแนวโน้มว่า จะแนะนำตัวในสหรัฐอเมริกา ตลาดสำคัญที่สุดของแคมรี่ก่อน ในกลางปีนี้

สัมผัสแรกที่รู้สึกได้สำหรับแคมรี่ใหม่คือ ดูสปอร์ตขึ้นกว่ารุ่นปัจจุบันมาก โดยเป็นแคมรี่รุ่นที่ 7 แล้วที่ออกสู่ตลาด นับจากรุ่นแรกเมื่อปี 1980 ซึ่งเน้นความเป็นรถครอบครัวมาตลอด ก่อนจะใส่แนวความเป็น สปอร์ต ซีดาน เข้ากับตัวใหม่นี้ให้ฉีกจากธรรมเนียมปฏิบัติเดิมๆ และนอกจากรุ่นพื้นฐานที่ดูเฉี่ยวแล้ว โตโยต้ายังมีเวอร์ชั่น สปอร์ต สำหรับแคมรี่ใหม่ด้วย ด้วยการเสริม กระจังหน้าแบบรังผึ้ง แทนแบบแถวขวาง, ไฟหน้าดวงกลมคู่ (อย่างที่เห็นในภาพนี้), แม็ก 16 นิ้ว, สปอยเลอร์หลัง และช่วงล่างจูนให้หนึบขึ้น ภายในก็จะดุดันด้วย ลายไม้สีดำ หรือสีไวน์แดง กับหนังแท้

เครื่องยนต์ที่ใช้ จะเป็นเครื่อง 2AZ-FE 2.4 ลิตร 4 สูบเรียง 118kw/221N.m และ IMZ-FE 3 ลิตร วี 6 กำลัง 162kw/304N.m โดยโตโยต้า จะเริ่มทดลองประกอบต้นแบบคันจริง ในอเมริกาในช่วงเดือน มีนาคม และ พฤษภาคม ก่อนจะเริ่มสตาร์ทไลน์การผลิต ที่โรงงานในเคนตั๊กกี้ USA ในเดือน กรกฏาคม ภายใต้โค้ดเนม 300N จากนั้น ในเดือนกันยายน จะเริ่มผลิตในญี่ปุ่น

สำหรับเมืองไทย ถ้าโตโยต้ายังยึดหลักการ ช้าแต่ชัวร์อย่างทุกวันนี้ คงต้องรอจนถึงปลายปีหน้า (2545) กว่าจะได้เห็นแคมรี่ใหม่

นิสสัน พรีมิร่า ใหม่

พรีมิร่า ใหม่ เปิดตัวในญี่ปุ่นไปแล้ว เมื่อ 29 ม.ค. ที่ผ่านมา

พรีมิร่าตัวนี้ เป็นเจนเนอเรชั่นที่ 3 นับตั้งแต่การแนะนำ P10 - พรีมิร่า รุ่นแรกเมื่อ 11 ปีก่อน ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่สำหรับพรีมิร่ารุ่นที่ 2 ซึ่งได้นำมาจำหน่ายในบ้านเราด้วยนั้น ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก เนื่องจากการออกแบบไม่โดดเด่นเท่าที่ควร รุ่นที่ 3 นี้ นิสสันเลยปล่อยฝีมือกันสุดตัว ได้พรีมิร่าใหม่ ที่ดูสวยเฉี่ยว ล้ำยุคเอามากๆ และก็เลยขยับเป้าหมายทางการตลาด ขึ้นไปชนกับรถระดับสูงกว่าด้วย โดยเฉพาะในยุโรป ตลาดสำคัญอีกตลาดหนึ่งของ นิสสัน พรีมิร่า

การออกแบบพรีมิร่าใหม่ ผสมผสานแนวโค้ง เข้ากับเส้นตัดตรงอย่างลงตัว และขนาดตัวถังก็เติบโตขึ้นอย่างมาก ยาวขึ้นกว่ารุ่นเดิม 135 มม. กว้างขึ้น 65 มม. และสูงขึ้น 80 มม. มาอยู่ที่มิติ 4565 x 1760 x 1480 มม. บนฐานล้อขนาด 2680 มม. ซึ่งเหยียดยาวขึ้นกว่าเดิม 80 มม. ช่วงล่างถูกปรับจูนให้เกาะถนนดีเยี่ยม เพื่อแข่งกับคู่แข่งหลักๆจากยุโรปด้วยกัน ซึ่งขึ้นชื่อลือชาในเรื่องความมันส์ในการขับขี่ โดยนิสสันวางตำแหน่งในยุโรป ให้ฟัดกับ ซี่รี่ส์ 3 และ เอ 4 โดยตรงทีเดียว

 

ถ้ามองว่าภายนอกดูล้ำสมัยแล้ว ภายในยิ่งฉีกออกไปอีก กับแนวคิดการนำแผงหน้าปัด มาไว้กลางรถ ซึ่งเริ่มนำมาใช้กันมากในรถเล็ก แต่งานนี้นิสสันขยับมาใช้กับรถใหญ่กันเลย และนอกจากแผงหน้าปัดแหวกแนวแล้ว นิสสันยังอัดเทคโนโลยีต่างๆ ไว้ในห้องโดยสารอีกมากมาย อาทิ จอภาพกลางคอนโซล ที่ออกแบบมาให้ทำงานสารพัด ทั้งแสดงแผนที่สำหรับระบบนำทาง แสดงสถานะการทำงานต่างๆทั้งรถ และยังแสดงภาพวิวท้ายรถ ซึ่งมองผ่านกล้อง CCD ขนาดเล็กทางด้านหลังอีกด้วย !!! นอกจากนั้นก็ยังมี ระบบช่วยการขับขี่ ซึ่งจะใช้สัญญาณเรดาร์ เลเซอร์ ซึ่งติดตั้งอยู่บริเวณกระจังหน้า คอยเตือนถ้าคุณเผลอง่วงเหงาหาวนอน แล้วไปจ่อท้ายสิบล้อมากเกินไป !
เครื่องยนต์ที่วางในพรีมิร่าใหม่มี 2.0 QR20DE และ 2.5 ลิตร QR25DE 4 สูบ

นอกจากรุ่นซีดานแล้ว ยังมีรุ่นสเตชั่นแวก้อนซึ่งเปิดตัวมาพร้อมกัน และสามารถเลือกระบบขับเคลื่อนได้ทั้ง 2 ล้อ และ 4 ล้อ นอกจากนั้นในยุโรป ก็จะมีรุ่นแฮทช์แบ็ค 5 ประตู เปิดตัวตามมาด้วย

ผู้บริหารระดับสูง ของนิสสันบ้านเรา ให้สัมภาษณ์ว่า มีแผนจะเปิดตัวพรีมิร่าในบ้านเราในปีนี้ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ก็ถือเป็นความกล้าหาญชาญชัยมาก แต่โจทย์ที่สำคัญคือ นิสสันต้องหาตำแหน่งที่จะวางพรีมิร่าให้เหมาะ เพราะลำพังราคาในญี่ปุ่น ก็ล่อไป 8.5 แสน ถึง 1 ล้านบาทแล้ว ถ้ามาเมืองไทย น่าจะวิ่งไปอยู่แถว 1.3 - 1.4  ล้าน ซึ่งก็จะไปชนกับเซฟิโรใหม่ ที่กำลังจะเปิดตัวเช่นกัน

บางที นิสสันอาจจะอาศัยเทคโนโลยีต่างๆ ที่อัดมาเพียบในพรีมิร่าใหม่ แล้วใช้แนวทางเดียวกับที่เคยขายเซฟิโรรุ่นแรก ในราคา 1 ล้านบาท เมื่อหลายปีก่อน แยกพรีมิร่ามาขายเป็นรถกลุ่มใหม่ ให้ลูกค้าที่เน้นไฮเทคมาซื้อไป ไม่แน่นะครับ ก็เซฟิโรติดโซน่าร์คันละล้าน ยังขายกันระเบิดเถิดเทิงตอนเปิดตัวใหม่ๆมาแล้ว...