ความเคลื่อนไหวในแวดวงรถยนต์
 
13/05/00
ความคิดเห็นเพิ่มเติม เชิญไปที่ Car&medical message board ครับ
มิตซูบิช แลนเซอร์ ใหม่

เปิดตัวเป็นทางการไปเรียบร้อยโรงเรียนญี่ปุ่นแล้วครับ สำหรับ แลนเซอร์ ใหม่ ที่คราวนี้ ใช้ชื่อต่อท้ายว่า แลนเซอร์ ซีเดีย (CEDIA - ย่อมาจาก CEntury and DIamond)
รูปทรงตัวถังภายนอก คอนเซอร์เวทีฟสุดขีด แม้ในภาพสเก็ตช์เบื้องต้น จะดูเฉี่ยวเอาเรื่อง แต่พอมาเป็นตัวตนจริงๆแล้ว ยังดูใกล้เคียงกับ แลนเซอร์รุ่นปัจจุบันค่อนข้างมาก ที่ต่างไปชัดเจน คือด้านหน้า และด้านท้าย ซึ่งปิ๊งกว่าตัวเดิมพอควร  สำหรับเรือนร่างภายนอก  มีการขยายขึ้นเล็กน้อย โดยตัวใหม่นี้ จะยาว 4360 มม. ยาวขึ้นกว่าเดิม 70 มม.  กว้าง 1695 มม. อ้วนขึ้น 5 มม. และสูงขึ้นกว่าเดิม 35 มม. เป็น 1430 มม.  สิ่งที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดคือฐานล้อ ที่เพิ่มจาก 2500 มม. เป็น 2600 มม.
 
ช่วงล่างหน้า แบบ แมคเฟอร์สัน สตรัท ที่ปรับปรุงมุมทางเรขาคณิตจากรุ่นเดิม  ช่วงล่างหลังแบบ มัลติลิงค์  ซึ่งเมื่อร่วมกับฐานล้อขนาด 2600 มม. ทำให้แลนเซอร์ใหม่  มีการทรงตัวที่ดี  ในขณะที่ให้ความนุ่มนวล  ความสบายในการขับขี่ไปพร้อมๆกัน  ตัวถังใหม่  ได้รับการปรับปรุงความแข็งแกร่ง  ทนต่อการบิดตัวดีกว่ารุ่นเดิม ถึง 50 เปอร์เซ็นต์  ช่วยเพิ่มสมรรถนะในการทรงตัวมากขึ้นเช่นกัน 

ระบบเบรค ABS และ ระบบกระจายแรงเบรค EBD มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน  ตั้งแต่รุ่น 1500 ซีซี กันเลย  โดยเบรคหน้า จะเป็นดิสค์แบบจานระบายความร้อน ขนาด 14 นิ้ว  ส่วนด้านหลังเป็นดรัมเบรค

 
จุดเด่นที่สำคัญ คือระบบเครื่องยนต์ และระบบส่งกำลัง ที่ในโบรชัวร์ เน้นคำว่า GDI + CVT ตลอดเวลา  โดยเครื่องยนต์ที่ใช้ในแลนเซอร์ใหม่ จะเป็นเครื่อง 4G15 - 100 แรงม้า  1500 ซีซี  และ 4G93 - 130 แรงม้า 1800 ซีซี  ทั้ง 2 รุ่นใช้ระบบหัวฉีดตรงเข้าห้องเผาไหม้ GDI ที่มิตซูบิชิ บุกเบิกการนำมาใช้กับตลาดเป็นเจ้าแรกๆ 

ระบบส่งกำลังอัตโนมัติทั้งหมด  เป็นระบบ CVT (Continuously Variable Transmission) ที่จะให้ประสิทธิภาพสูง และประหยัดน้ำมันมากขึ้น  การเปลี่ยนเกียร์ไม่มีการสะดุด  และยังใช้ระบบควบคุม INVECS III  ที่ปรับปรุงให้เหนือชั้นกว่า INVECS II ในรุ่นปัจจุบัน  ยิ่งไปกว่านั้น  ในรุ่นสูงสุด คือ 1800 ทัวริ่ง  ก็จะได้ เกียร์ CVT 6 สปีด INVECS III ที่มีโหมดเปลี่ยนเกียร์แบบ ทิปโทรนิค ให้เลือกใช้ด้วย

 
 

แม้ขนาดภายนอก จะเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย  แต่เนื้อที่ภายในนั้น มิตซูบิชิเคลมว่า จะกว้างใหญ่ขึ้นกว่าเดิมมาก จนได้พื้นที่ภายในเกือบเท่าซีดานขนาดใหญ่  ด้วยสไตล์การออกแบบตามแนวคิด แคบ ฟอร์เวิร์ด (cab forward) ร่วมกับฐานล้อที่ยาวกว่าเดิม ถึง 100 มม.  และการลดแนวแผงหน้าปัดลงต่ำ แบบเดียวกับที่ฮอนด้านิยมใช้ ทำให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารรู้สึกได้ถึงความกว้างขวาง  

ภายในดีไซน์สุดเฉี่ยว ต่างจากภายนอกที่คงสภาพเดิมๆไว้  ยิ่งผนวกเข้ากับการเล่นโทนสีแบบ ทูโทน โดยเฉพาะรุ่นที่ภายในเป็นสีเบจ ยิ่งทำให้ห้องโดยสาร ทั้งกว้างขวาง และหรูหราไปพร้อมๆกัน  ซึ่งนี่เป็นจุดที่ มิตซูบิชิเน้นมาก ในแลนเซอร์ใหม่  โดยคุยว่า วัสดุภายในห้องโดยสาร ได้รับการคัดสรรวัสดุคุณภาพสูงมาใช้ทั้งสิ้น 

ลูกค้าของแลนเซอร์ใหม่ จะเลือกโทนสีภายในได้ถึง 3 แบบ คือ เบจ เทา และดำ โดยจะมีการตกแต่งลายไม้ หลากสี ให้เข้ากับโทนสีภายใน  ลูกเล่นต่างๆ ก็ยัดมาให้ชนิดไม่อายรถขนาดใหญ่กว่าเลยทีเดียว

ความปลอดภัย เป็นจุดขายที่สำคัญอีกจุดหนึ่ง สำหรับแลนเซอร์ใหม่  ตั้งแต่ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า เข็มขัดนิรภัย 3 จุด 4 ที่นั่ง  บุภายในด้วยวัสดุซับแรงกระแทก โดยเฉพาะส่วนที่จะกระแทกกับศีรษะ และที่สำคัญคือ ลูกค้าสามารถสั่งติดตั้ง  บาร์ยึดที่นั่งเด็กแบบ ISOFIX ได้ เป็นเจ้าแรกสำหรับรถนั่งญี่ปุ่นขนาดเล็ก  กระจกหน้าต่างทุกบาน ก็มีระบบเซ็นเซอร์สิ่งกีดขวาง  ป้องกันการหนีบ โดยเฉพาะมือของเด็กๆ

เห็นหน้าค่าตาคันจริงกันแล้ว  หลายคนคงติดใจ  โดยเฉพาะภายในห้องโดยสาร ที่ผมเห็นในรูปแล้ว รู้สึกชอบแลนเซอร์ขึ้นมากๆทีเดียว  ไม่รู้สึกเป็นรถกระป๋องเหมือนที่ผ่านๆมา  นี่ถ้าผู้จำหน่ายในบ้านเรา  เปลี่ยนแนวการทำตลาด รีบมาเปิดตัวเร็วๆ  และอัดอุปกรณ์รวมทั้งการตกแต่งต่างๆมา  โดยไม่ตัดทอนออก  ที่สำคัญ  ตั้งราคาให้น่ารักสักเล็กน้อย  ...  งานนี้  แลนเซอร์น่าจะขายกันกระฉูด ...

คนไทยชอบความหรูหรานะคร้าบบบบบบบบบบ