เมอร์เซเดส ซี คลาส ใหม่

หลังจากเจอโรคเลื่อนมาหลายครั้ง ซีคลาส ใหม่ถอดด้าม ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวเป็นทางการแล้ว เมื่อวันที่ 21 มีนาคม ที่ผ่านมา

หลังจากใช้เวลาในการพัฒนาทั้งสิ้น 4 ปี เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์การพัฒนารถของเมอร์เซเดส (ซี คลาส ตัวเดิม ใช้เวลาในการพัฒนาถึง 7 ปี) W 203 ก็พร้อมจะออกมาเขย่าขวัญคู่แข่ง ที่สำคัญที่สุดคือ ซีรี่ส์ 3 จากบีเอ็มดับบลิว และแม้ว่าจะใช้เวลาในการพัฒนาสั้นลงกว่ารุ่นเดิมเกือบครึ่ง แต่เบนซ์ยืนยันว่า ซี คลาส ใหม่ตัวนี้ อัดแน่นด้วยคุณภาพ ที่ไม่ด้อยกว่า และอาจจะเหนือกว่า ซี คลาส ตัวเดิมด้วยซ้ำไป ที่สำคัญคือ เวลาที่ใช้น้อยลง หมายถึงงบประมาณที่ใช้ลดลงด้วยเช่นกัน โดยไม่กระทบกระเทือนถึง มาตรฐานของ เมอร์เซเดส เบนซ์

  

ซี คลาส 4 ประตู เป็นตัวแรกในตระกูล ทีออกสู่ตลาด หลังจากนั้น ในช่วงต้นปีหน้า ซี คลาส เอสเตท ก็จะตามมา  ตามด้วยตัวเจ็บ ซี คลาส 3 ประตู ในอีก 2-3 เดือนถัดไป หลังจากนั้น อีก 1-2 ปี SLK ใหม่ ที่วางบนแพลทฟอร์มของ ซี คลาส ใหม่ก็จะตามมา และปิดท้ายขบวนด้วย CLK ใหม่ ในปี 2003

ถ้าจับ ซี คลาส ใหม่ มาเทียบกับ ซี คลาส ตัวเดิม สัดส่วนแทบจะเปลี่ยนแปลงไปน้อยมาก รุ่นใหม่ มีความกว้างกว่าเดิมเพียง 1 มม. ยาวกว่าเดิม 10 มม. และเตี้ยลงกว่าเดิม 5 มม. แต่ฐานล้อถูกจับเหยียดออกไปอีก 25 มม. เพื่อให้ได้พื้นที่ห้องโดยสารที่กว้างขวางกว่าเดิม รูปทรงภายนอกที่ดูเพรียว ด้วยคอนเซ็ปต์การออกแบบ ให้ดูเหมือนรถคูเป้ ทำให้ได้ drag co-efficient เพียง 0.26 ต่ำที่สุดในรถระดับเดียวกัน (ซี คลาส เดิม มี cd 0.30) ตัวถังใหม่ ทนแรงบิดได้ดีกว่าเดิม 26 เปอร์เซ็นต์ ดูดซับแรงกระแทกจากการชนได้ดีกว่าเดิม นั่นหมายถึงว่า น้ำหนักตัวของ ซี คลาส ใหม่ จะหนักขึ้นกว่าตัวเดิม ราว 30 กก.

 

เบนซ์ วางตลาดประเดิมรวดเดียว 7 รุ่น ด้วยเครื่องยนต์ ที่ปรับปรุงให้มีแรงม้า แรงบิด สูงขึ้น เมื่อเทียบรุ่นต่อรุ่นกับ ซี คลาส เดิม ว่ากันตั้งแต่

C 180 - 2.0 ลิตร 129 แรงม้า (แทนที่ C 180 - 1.8 ลิตร เดิม) C 200 - 2.0 ลิตร คอมเพรสเซอร์ 163 แรงม้า C 240 - 2.6 ลิตร วี 6 - 170 แรงม้า (แทนที่ C 240 - 2.4 ลิตร เดิม โดยขยายกระบอกสูบ จาก 83.2 เป็น 89.9 มม.) C 320 - 3.2 ลิตร วี 6 - 218 แรงม้า (แทนที่ C 280 - 2.8 ลิตร เดิม)

ทั้ง 4 รุ่น ข้างบนนั้น เป็นเครื่องยนต์เบนซิน ที่วิศวกรระบุว่า ได้ทำการปรับปรุงในหลายๆจุด ให้เครื่องเดินเรียบ และนุ่มกว่าเดิม ส่วนหลักๆคือการปรับปรุง ท่อทางเดินไอดี ไอเสีย และออกแบบรูปทรงห้องเผาไหม้ใหม่  ส่วนอีก 3 รุ่น เป็นเครื่องยนต์ดีเซล ได้แก่

C 200 CDI - 115 แรงม้า C 220 CDI - 143 แรงม้า C 270 CDI - 170 แรงม้า ทั้ง 3 รุ่น เป็นเครื่องยนต์ ดีเซล 4 สูบ ใช้ระบบ คอมม่อนเรล และ เทอร์โบ ในขณะที่เครื่องยนต์ดีเซล วี 6 ที่จะมาต่อกรกับ BMW 330d ยังต้องรอเวลาอีกหลายปี เนื่องจากยังอยู่ในระหว่างการพัฒนา  ทีเด็ดสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ ทุกรุ่นตั้งแต่ C 180 ขึ้นไป จะได้ระบบเกียร์ แมนน่วล " 6 สปีด" มาเป็นมาตรฐาน ส่วนเกียร์อัตโนมัติ ก็จะเป็นแบบ 5 สปีดทั้งหมด

ช่วงล่างหน้าของ ซี คลาส ใหม่ ปรับเปลี่ยนจาก ดับเบิ้ล วิชโบน ในรุ่นเดิม มาเป็น  แมคเฟอร์สัน สตรัท เป็นครั้งแรก ในเบนซ์ ซึ่งวิศวกรบอกว่า นอกจากจะเบา และกะทัดรัดขึ้นแล้ว ยังทำให้การทรงตัวดีขึ้นด้วย ส่วนด้านหลัง ยังคงใช้มัลติลิงค์ ที่ปรับปรุงจากรุ่นเดิม โดยมีการออกแบบ แทรคร็อด ใหม่ และได้ซับเฟรมใหม่  ที่ช่วยซับแรงกระแทก เพิ่มความนุ่มนวลมากขึ้น และถ้ายังไม่พอใจช่วงล่างเดิมๆ ก็สามารถเลือกหา ช่วงล่างแบบสปอร์ตได้ โดยจะลดความสูงลงอีก 15 มม. เพิ่มความแข็งของสปริง อีก 21 เปอร์เซ็นต์ และมาพร้อมกับยาง 225/50 R 16 แต่ถ้ายังไม่ถูกใจ ก็เลือกชุดแต่ง AMG  กับแม็กขอบ 17 และยางขนาด 225/45 R 17 ที่ด้านหน้า กับ 245/40 R 17 ที่ล้อหลัง ให้ดุสุดๆกันไปเลย

พวงมาลัย หันมาใช้ แร็ค แอนด์ พิเนียน จุดประสงค์หลักก็เพื่อ เซฟน้ำหนักไปอีก 4.5 กก. เทียบกับการใช้ระบบ recirculating ball ที่ใช้ในรุ่นก่อนๆมาตลอด นอกจากน้ำหนักแบาแล้ว ยังทำให้การควบคุมแม่นยำมากขึ้น โดยมีระบบผ่อนแรงแบบผันแปรตามความเร็วให้เลือกติดตั้ง ระบบรักษาเสถียรภาพ ESP มีมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน รวมทั้งระบบช่วยการเบรค BAS และป้องกันการลื่นไถล สำหรับจานเบรค และคาลิปเปอร์ ก็ปรับปรุงขึ้นจากเดิมเช่นกัน

 

ภายในห้องโดยสาร ถอดแบบมาจาก เอส คลาส ใหม่ และจะเป็นเค้าโครง สำหรับ อี คลาส ใหม่ด้วยเช่นกัน แผงหน้าปัดไฮเทค ที่มีเกจ์เพียง 3 วง คือ เกจ์แสดงความเร็ว วัดรอบ และระดับน้ำมันเชื้อเพลิงเท่านั้น ส่วนข้อมูลอื่นๆ รวมทั้งอุณหภูมิเครื่องยนต์ จะแสดงผลที่จอขนาดใหญ่กลางแผงหน้าปัด (ดูไฮเทค แต่ต่อไปนี้คงไม่ได้ความรู้สึกในการมองเข็ม ที่ "กวาด" ไปรอบๆ) โดยสามารถเลือกการแสดงผล ด้วยปุ่มที่อยู่บนพวงมาลัย การตกแต่งภายใน แบ่งเป็น 3 ระดับ คือ Classic, Elegance และ Avangarde

ถุงลมนิรภัย คู่หน้า เป็นแบบ dual stage แล้ว โดยความแรงของการพองตัว จะแปรผันตามความรุนแรงของการชน นอกจากนั้น ยังมีสวิทช์ตัดการทำงานของถุงลมนิรภัยมาให้ด้วย ระบบปรับอากาศอัตโนมัติเต็มรูปแบบ ระบบสั่งการวิทยุ, โทรศัพท์, ระบบนำทาง ด้วยเสียงคำสั่ง ก็จะมีให้เลือกใช้ เป็นครั้งแรกสำหรับรถในระดับนี้ สำหรับผู้ที่เปลี่ยนกันขับบ่อยๆ ก็สามารถโปรแกรมความต้องการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งที่นั่งผู้ขับขี่ อุณหภูมิในรถ ตำแหน่งกระจกมองหลัง และระบบเสียงที่ต้องการ ให้ได้ตามใจสั่ง

  

เหนือสิ่งอื่นใด ที่แฟนๆเบนซ์ โปรดทราบก็คือ ราคารุ่นต่อรุ่นเมื่อเทียบกับ ซี คลาส เดิม จะ "ถูกลง" หรืออย่างเก่งก็เท่าๆรุ่นเดิม แต่จะไม่แพงขึ้น แม้ว่าจะมีอุปกรณ์ต่างๆ อัดมามากมายขึ้นก็ตาม ส่วนหนึ่งเนื่องมาจาก งบประมาณในการพัฒนาที่ลดลง อย่างที่บอกไว้แต่แรกนั่นเอง (นี่เป็นข้อมูลในต่างประเทศ แต่ในบ้านเรา ผู้จำหน่ายเค้ารู้ว่า ตั้งราคายังไง ก็ยังมีคนซื้อ!!!)

เชื่อว่า อีกไม่กี่เดือน คงเริ่มเห็น ซี คลาส ใหม่ ออกวิ่งในบ้านเรา ในขณะที่ ซีรี่ส์ 3 ใหม่ประกอบในประเทศก็เริ่มออกขายแล้ว และปลายปีนี้ เอ 4 ใหม่ ก็จะแนะนำตัวในตลาดโลก...

ตอนนี้ ใครจะควักกระเป๋าซื้อ สปอร์ต ซีดาน ระดับหรู สักคัน คงไม่ใช่เรื่องตัดสินใจง่ายๆเสียแล้ว...