เจนีวา มอเตอร์โชว์ 2000

สำหรับ มอเตอร์ โชว์ ที่เจนีวา ครั้งที่ 70 คราวนี้ มีรถหลายคัน ที่เคยเป็นต้นแบบเมื่อปีก่อน มากลายเป็นโปรดัคชั่นคาร์ในปีนี้ อีกหลายยี่ห้อ เป็นรถที่เคยเปิดตัวใน ดีทรอยต์ มอเตอร์โชว์มาแล้ว เช่น เล็กซัส LS430, ฮุนได ซานตาเฟ่ เป็นต้น จึงไม่นำข้อมูลมาลงซ้ำ ผู้สนใจคลิกไปดูที่ ดีทรอยต์ 2000 เพิ่มเติมได้ครับ

โปรดัคชั่น คาร์ - รถที่เตรียมออกจำหน่าย
เฟอร์รารี่ 360 สไปเดอร์

เฟอร์รารี่ เปิดตัว 360 สไปเดอร์ อย่างเป็นทางการในงานนี้ โดยยังใช้เทคโนโลยีหลายอย่าง ทั้งตัวถังอลูมิเนียม, เครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง และอุปกรณ์สำคัญๆอีกหลายชนิด จากทีมแข่ง เอฟ 1 ของเฟอร์รารี่เอง ที่รั้งตำแหน่งแชมป์โลกอยู่

เฟอร์รารี่ สร้าง 360 สไปเดอร์ออกมาให้เป็น สปอร์ตเปิดประทุนที่เร็วที่สุดในโลก โครงสร้างโมโนคอคอลูมิเนียมที่เบา แต่แข็งแรงมาก ทำให้สไปเดอร์ มีน้ำหนักมากกว่า 360 คูเป้เพียง 5 เปอร์เซ็นต์ แต่มีความแข็งแกร่งเท่าเทียมกัน หลังคาอัตโนมัติที่ใช้ ก็ทำให้ 360 สไปเดอร์ เป็นเฟอร์รารี่คันแรก ที่มีหลังคาเปิด-ปิดได้ แบบอัตโนมัติสมบูรณ์แบบ ในขณะที่ผู้ขับขี่ยังสามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ทรงพลัง 3.6 ลิตร วี 8 - 400 แรงม้า ที่เปล่งพลังเสียงผ่านฝาครอบพลาสติคใสมาได้ ชัดเจนกว่าในคูเป้

ด้วยเทคโนโลยีต่างๆที่อัดมาใน 360 สไปเดอร์ ทำให้เฟอร์รารี่กล้าพูดว่า นี่เป็น  "the biggest technological project we have ever done."

โตโยต้า RAV 4 มาแล้ว...

RAV4 ถือเป็นผู้บุกเบิกรุ่นแรกๆ สำหรับ SUV ขนาดเล็ก ก่อนจะถึงยุคบูมของ SUV และด้วยอายุอานามที่มากกว่าเพื่อนฝูง โตโยต้าจึงต้อนรับปี 2000 ด้วย RAV4 ใหม่สุดเฉี่ยวคันนี้ โดย RAV4 ใหม่ จะใหญ่กว่า และหนักกว่ารุ่นเดิม

ทั้งพื้นที่ส่วนโดยสาร และส่วนบรรทุกสัมภาระได้รับการขยับขยายมากขึ้น บนฐานล้อที่เหยียดยาวขึ้นกว่าเดิม สไตลิ่งตัวถังกลมมนขึ้น ไฟหน้าขนาดใหญ่สไตล์เดียวกับที่เห็นใน เล็กซัส IS ที่จะเห็นได้อีก ในโคโรลล่าใหม่ ภายในออกแบบได้เก๋ไก๋กว่ารุ่นเดิมมากทีเดียว
สิ่งที่ยังไม่เปลี่ยนไปนัก คือเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังที่ยังขนมาจากคันเดิม ในยุโรป RAV4 จะวางเครื่อง 4 สูบ 1.8  กับ 2.0 ลิตร และมีทั้งแบบ 3 และ 5 ประตู ให้เลือกใช้...เห็นในรูปยังสวยขนาดนี้ ตัวจริงนั้น คุณเล่จาก Thaidriver ที่บินไปดูงานนี้มาบอกว่า...สุดๆจริงๆครับ

บีเอ็มดับเบิลยู M3

ได้ฤกษ์โชว์ตัวเป็นทางการ สำหรับ M3 คันแรงของบีเอ็ม ภายใต้เรือนร่างของซีรี่ส์ 3 คูเป้ ที่จับมาแต่งให้ดุดันขึ้นไปอีกเป็นกอง นอกจากหน้าตาที่เปลี่ยนไป ชิ้นส่วนบางชิ้นอย่างฝากระโปรงหน้า ก็เปลี่ยนเป็นอลูมิเนียมเพื่อลดน้ำหนัก ภายในได้ที่นั่งสปอร์ตที่ปรับแต่งได้ทุกทิศทาง รวมทั้งขยายความกว้างจของพนักพิงได้ด้วย  

เครื่องยนต์ 6 สูบเรียง 3.2 ลิตร 343 แรงม้า ที่จับคู่กับเกียร์ 6 สปีด เคลมว่ากระชากจาก 0 ถึง 60 ไมล์ต่อชั่วโมง ในช่วงไม่ถึง 5 วินาที สื่อมวลชนบางค่ายยกย่องว่า M3 จะเป็นสปอร์ตคูเป้ ที่ทรงสมรรถนะที่สุดคันหนึ่งในโลกทีเดียว

 

นอกจาก เอ็ม 3 แล้ว บีเอ็มก็มี X5 3.0 ลิตร มาโชว์ หลังจากที่รุ่นแรกที่วางขาย ใช้เครื่อง 4.0 ลิตร วี 8 เพื่อเป็นการปูอิมเมจไว้ก่อน โดยหวังว่ารุ่น 3.0 ลิตร 6 สูบเรียง 231 แรงม้า จะขยายตลาด X5 ออกไปได้กว้างกว่า ไม่รู้ว่าตัวนี้หรือเปล่า ที่เอามาเลียบๆเคียงๆตลาดประเทศไทยตอนนี้อยู่ด้วย?? 

ตบท้ายด้วย ซีรี่ส์ 3 ขับเคลื่อน 4 ล้อ 330d x 4 ที่วางเครื่อง 3.0 ดีเซล 184 แรงม้า ที่จะเป็นขับเคลื่อน 4 ล้อคันแรก สำหรับ อี 46 หลังจากว่างเว้นมาใน อี 36

แลนด์ โรเวอร์ ฟรีแลนเดอร์ วี 6


SUV รุ่นเล็ก ที่มีข่าวว่าอาจจะเข้ามาในบ้านเราคันนี้ เปิดตัวรุ่น วี 6 ที่มาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ซึ่งมีระบบ
 Steptronic เลือกเล่นเกียร์ได้ตามที่ต้องการ ซึ่งในปัจจุบัน มี SUV ที่ใช้เกียร์ระบบนี้อยู่ เพียง บีเอ็ม X5 และ เบนซ์ M class เท่านั้น ระบบนี้จะช่วยให้ผู้ขับขี่ทำการควบคุมรถในสภาพการขับขี่แบบ ออฟโร้ด ได้ดีกว่าออโตเมติคทั่วๆไป
เครื่องยนต์ที่ใช้ เป็นเครื่อง 2.5 ลิตร วี 6 ผลิตแรงม้าได้ 175 ตัว วางขวาง และทำการลดการถ่ายทอดความสั่นสะเทือน และเสียงรบกวนเข้าสู่ห้องโดยสารอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วงล่างอิสระ และมีระบบ อิเลคโทรนิค เบรค ดิสทริบิวชั่น ร่วมกับ แทรคชั่น คอนโทรล เพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ขับขี่มากขึ้น 
นอกจากที่กล่าวมาแล้ว การตกแต่งภายในอย่างหรูหรา  เบาะหนังแท้ ก็ยกระดับฟรีแลนเดอร์ ให้มาเคียงบ่าเคียงไหล่รุ่นพี่ๆได้อย่างไม่อายเลยทีเดียว

เบนซ์ S400 and Pullman

ไม่มี ซี คลาส ใหม่ สำหรับเวทีของเบนซ์ ในเจนีวาปีนี้ อย่างที่คาดหวังกันไว้ แต่เบนซ์ก็นำรุ่นอื่นๆมาโชว์ เช่น S class ที่วางเครื่อง ดีเซล วี 8 - 4.0 ลิตร 238 แรงม้า รวมถึง Pullman สุดยอดแห่งความหรูอีกคันหนึ่ง ส่วนรุ่นอื่นๆ ก็มีการนำ SLK 320 วางเครื่อง 3.2 ลิตร วี 6 - 218 แรงม้า เกียร์ 6 สปีดแมนน่วล มาเรียกน้ำลายคอเบนซ์ทั้งหลาย

ออดี้ Allroad quattro และ RS4

Allroad quattro เปิดตัวเป็นทางการในงานนี้ โดยเป็นรถที่อยู่บนพื้นฐานของ A6 Avant ที่ปรับแต่ง่ให้พร้อมลุยแบบ ออฟโร้ด ได้อย่างสมบูรณ์ ในขณะที่ออดี้ ยังไม่มี SUV แท้ของตัวเอง อย่าง X5 หรือ M class ออกมา  

Allroad วางเครื่องยนต์ วี 6 ทวินเทอร์โบ 250 แรงม้า ใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ควอตโตร้ ที่เลื่องชื่อ ส่งกำลังด้วยเกียร์ 6 สปีดแมนน่วล ช่วงล่างปรับได้ 4 ระดับ โดยมี สตรัท แบบแอร์สปริง ทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ ตรวจสอบความสูง โดยเซ็นเซอร์นี้จะตรวจสอบสภาพการขับขี่ และพื้นผิวทางที่จะลุยไป เพื่อปรับความสูงตัวรถให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยอัตโนมัติ จุดที่เตี้ยที่สุดกับสูงที่สุด จะห่างกันอยู่ 6.6 ซม. 

แรงสุดๆอีกคันหนึ่งจากออดี้ คือ RS4 ที่จับเครื่อง วี 6 ทวินเทอร์โบ ที่วางอยู่ใน S4 ก่อนหน้านี้ มาโมอีกครั้งโดย Quattro GmbH บริษัทลูกของออดี้ รีดม้าออกมาถึง 380 ตัว!!! เป็นสปอร์ตสุดแรงในคราบ  A4 Avant ที่เป็นเอกลักษณ์ของตระกูลออดี้

วอลโว่ V70 Cross Country

เปิดตัวในยุโรปอย่างเป็นทางการ หลังจากนำไปเรียกน้ำลายคอรถเมืองลุงแซมมาแล้ว อาจจะจัดให้ วี 70 XC เป็นรถในลักษณะเดียวกับ ออดี้ Allroad  คือเป็นอ้อฟโร้ดพันธุ์กลาย แต่ก็ไม่ให้ SUV อ้อฟโร้ดอื่นๆมาดูหมิ่นได้ ด้วยการติดตั้งระบบ TRACS เข้ากับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเดิม ระบบนี้จะตรวจจับการลื่นไถลของล้อต่างๆ และทำการเบรคล้อที่ลื่นไถลทันทีเพื่อไม่ให้มีการสูญเสียกำลังไปเปล่าๆ

เครื่องยนต์ที่ใช้ เป็นเครื่อง 2.4 ลิตร เทอร์โบแบบไลท์เพรสเชอร์ ผลิตม้าได้ 200 ตัว พร้อมแรงบิด 210 ฟุต-ปอนด์ ที่รอบต่ำมากเพียง 1,800 รตน. โดย วี 70 คันนี้ ทำอัตราเร่งได้ไม่เลวนัก 0-60 ไมล์/ชม ใน 8.7 วินาที

ที่นั่งแถวหลังของ วี 70 XC ก็สามารถแยกพับได้สามส่วน 40-20-40 เพื่อให้การบรรทุกสัมภาระมีประสิทธิภาพมากที่สุด ในณะที่อัดความหรูหรามาเต็มพิกัดเช่นเดียวกับ วอลโว่ รุ่นอื่นๆ นอกจากนั้นก็มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เช่น ปลั๊กจ่ายไฟฟ้า 12 โวลท์ที่ด้านหลังรถ,  ที่แขวนถุงบริเวณท้ายรถ,  กล่องทำความเย็น, ฯลฯ

อัลฟ่า 156 SPORTWAGON

ในขณะที่บ้านเรา กำลังจะขึ้นสายการผลิต 156 ในประเทศ ที่ยุโรปก็จัดการเปิดตัว 156 สปอร์ตแวก้อน อย่างเป็นทางการในงานนี้ โดยรุ่นแรกนี้วางเครื่อง 2.5 ลิตร วี 6 - 24 วาล์ว ที่การันตีไฮสปีดกับความเร็ว 230 กม/ชม 

156 สปอร์ตแวก้อน อาจจะเน้นความสวยงาม และดูสปอร์ต มากกว่าการใช้งาน เพราะพื้นที่ด้านหลังอาจจะไม่มากมายนัก แต่ดีไซน์โดยรวมยังทำให้ 156 คันนี้ ดูเพรียวและสปอร์ต แบบที่อัลฟ่าพึงจะเป็น

โอเปิ้ล SPEEDSTER

จากต้นแบบ vx220 ที่ออกโชว์เมื่องานเจนีวาปีที่แล้ว เพียงปีเดียว โปรดัคชั่นคาร์ก็ออกมาแนะนำตัวเรียบร้อย โดย สปีดสเตอร์ เครื่องวางกลาง จากโอเปิ้ลคันนี้ เป็นการพัฒนาร่วมกันระหว่าง เจเนอรัล มอเตอร์ส กับ โลตัส โครงสร้างส่วนใหญ่เป็นอลูมิเนียม ทำให้น้ำหนักตัวทั้งคันเพียง 850 กก. เมื่อร่วมกับการวางเครื่องยนต์ 2.2 ลิตร 147 แรงม้า  ทำให้สมรรถนะของสปีดสเตอร์ อยู่ในระดับที่น่าสนใจ โดยโอเปิ้ลการันตี 0-100 กม/ชม ต่ำกว่า 6 วินาที กับท้อปสปีด เกิน 220 กม/ชม

 
โฟล์ค Sharan ใหม

แอบเปิดตัว ชารานใหม่ ในวินาทีสุดท้าย เพื่อเลี่ยงไม่ให้ชนกับ ฟอร์ด กาแลกซี่ใหม่ ที่เป็นคู่แฝดกันอยู่ และนอกจาก ชาราน ใหม่ งานนี้ก็นำเอา โฟล์คเต่าเวอร์ชั่นพิเศษ RSi ที่เคยลงรายละเอียดไปแล้ว มาแสดง โดยเต่าที่แพงที่สุดคันนี้ จะผลิตจำนวนจำกัดเพียง 250 คันเท่านั้น

เรโนลต์ Avantime

ถ้าคุณประหลาดใจเมื่อได้เห็นหน้าตาต้นแบบ Avantime ที่งานนี้ เมื่อปีกลาย คุณจะยิ่งแปลกใจหนักขึ้น เมื่อปีนี้ เรโนลต์จับ Avantime ขึ้นสู่สายพานการผลิต และมาเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานนี้แล้ว

Avantime อาศัยแพลทฟอร์มของ เรโนลต์ Espace ที่เป็น MPV เหมือนกัน ภายในก็จัดวางให้ใช้งานได้ในแบบ MPV แต่ตกแต่งให้หรูหรากว่าอย่างแยกกันได้ชัด ที่สำคัญ ยังคงรูปลักษณ์ความเป็น MPV 2 ประตูไว้ตามต้นแบบอย่างเหนียวแน่น และเพื่อให้สมเป็น MPV สุดหรู เครื่องที่วางจึงต้องแรงเข้าไว้ โดยเรโนลต์ วางเครื่อง วี 6 -210 แรงม้า ไว้ใต้ฝากระโปรง

คอนเซ็ปต์คาร์ ในงานนี้
More for Geneva Auto Show 2000